การบันทึกข้อความครั้งที่ 12
วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ.2561
เวลา 8.30-11.30
ความรู้ที่ได้รับ
ให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ ฝึกให้เด็กรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกชนิด
เพื่อร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ในการปรุงอาหารของพ่อแม่ในแต่ละมื้อถ้าเป็นไปได้ควรให้เด็กได้เข้าร่วม
และให้เขาช่วยเหลือในสิ่งที่เหมาะสมตามวัย ให้เด็กได้สังเกตด้วยการใช้ประสาทสัมผัส
ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงในขณะอยู่กับครอบครัว เป็นการสร้างพฤติกรรมกา
รบริโภคที่เหมาะสมให้กับเด็ก
อาหารและโภชนาการสำหรับเด็ก
ควรให้ร่างกายได้รับไขมันที่พอเหมาะคือประมาณร้อยละ
30 ของพลังงานทั้งหมด
ในเด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับน้ำมันพืชและไขมันจากสัตว์ และนม
และควรเลือกใช้น้ำมันที่ให้กรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ได้แก่
น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันจากปลาทะเล
เด็กวัย 1-3 ปี รับประทานไข่ได้วันละ 1 ฟอง
ควรให้เด็กรับประทานน้ำตาลแต่พอควรการรับประทานน้ำตาลทรายที่ใส่ในอาหาร
ขนม และเครื่องดื่มมากเกินไปจะทำให้เกิดโทษ เช่น ฟันผุ
และยังเป็นสาเหตุให้มีการสร้างไขมันไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น
เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน
โรคหัวใจขาดเลือดและโรคเบาหวานในอนาคต ควรรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตประเภทธัญพืช
ซึ่งเมื่อย่อยแล้วจะให้น้ำตาล
ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้และยังได้รับสารอาหารชนิดอื่นเพิ่มเติมด้วย
ควรให้เด็กรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้อาหารที่ให้
ใยอาหารเป็นส่วนของพืชที่ร่างกายย่อยไม่ได้
จึงเหลือเป็นกากอยู่ในลำไส้
ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ
กระตุ้นการขับถ่ายของร่างกายให้สม่ำเสมอ
มีการศึกษาพบว่าจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการที่สารพิษสัมผัสกับผนังลำไส้เป็นเวลานาน
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลำไส้โป่งพอง
ริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งบางชนิด
โรคไขมันสูงในเลือดเมื่อเติบใหญ่
ผักที่มีประโยชน์สูง ได้แก่ผักที่มีสีเขียวสด เช่น
ผักตำลึง ผักบุ้ง ผักคะน้า ฯลฯ
ผักสีแดง สีเหลือง สีแสด เช่น มะเขือเทศสุก ฟักทอง
เป็นต้น ในวันหนึ่งๆ ควรได้รับผักอย่างน้อย 1-2 ชนิด
ควรให้เด็กรับประทานอาหารรสธรรมชาติงดเว้นอาหารรสจัดทุกชนิด
ควรลดการใช้เกลือและอาหารที่มีโซเดียมสูง
เพราะอาหารรสเค็มจะมีความเสี่ยงต่อ
การเกิดโรคความดันโลหิตสูง อาหารที่มีโซเดียมสูง
เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว อาหารหมักดองอื่นๆ
รวมถึงเครื่องดื่มบางชนิดที่มีโซเดียมสูงด้วย
ควรให้เด็กรับประทานอาหารที่มีส่วนป้องกันโรคมะเร็งได้แก่
การเพิ่มผักและผลไม้ให้มากขึ้น
ละเว้นอาหารที่ไหม้เกรียมอาหารที่มีความชื้นจนเกิดเชื้อรา
จำกัดปริมาณไขมันโดยเฉพาะที่มาจากสัตว์
และไขมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัว
ควรหลีกเลี่ยงอาหารใส่สีและสารเคมีควรให้
เด็กรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม
และสะดวกแก่การรับประทานเนื่องจาก
ระบบทางเดินอาหารของเด็กยังเติบโตไม่เต็มที่
กระเพาะอาหารยังมีขนาดเล็ก
การจัดอาหารให้เด็กจึงควรมีความพอเหมาะ
เด็กที่เล็กมากควรแบ่งมื้ออาหารให้มากขึ้น
ขนาดของอาหารควรหั่นเป็นชิ้นเล็กที่สะดวกในการตักและเคี้ยว
นอกจากนี้เด็กในวัยนี้ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องปริมาณของอาหารที่เหมาะสม
บางวันอาจรับประทานได้มาก บางวันอาจรับประทานได้น้อย
หากเด็กรับประทานอาหารน้อยผู้จัดอาหารไม่ควรวิตกกังวลมาก
ควรหาวิธีจูงใจให้เด็กอยากรับประทานอาหารและถ้าเด็กไม่ยอมรับประทาน
ควรแยกอาหารชนิดนั้นออกไปก่อน
ปล่อยให้เด็กได้ปรับตัวใน
การรับประทานอาหารมื้อต่อไป (กองโภชนาการ
กรมอนามัยกระทรวงสาธารณะสุข, 2546)
ผู้ปกครองควรเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการ ให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอ ฝึกให้เด็กรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ทุกชนิด
เพื่อร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ในการปรุงอาหารของพ่อแม่ในแต่ละมื้อถ้าเป็นไปได้ควรให้เด็กได้เข้าร่วม
และให้เขาช่วยเหลือในสิ่งที่เหมาะสมตามวัย ให้เด็กได้สังเกตด้วยการใช้ประสาทสัมผัส
ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงในขณะอยู่กับครอบครัว เป็นการสร้างพฤติกรรมกา
รบริโภคที่เหมาะสมให้กับเด็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น